รับประทานวิตามินเวลาไหนเห็นผลดีที่สุด

ในการเลือกรับประทานวิตามิน ช่วงเวลาไหน จะเห็นผลดีที่สุด ทำให้เรามั่นใจว่าวิตามินที่เราทานเข้าไป จะเห็นผลและไม่เกิดผลข้างเคียง หรือเกิดอันตรายต่อร่างกายของเรา  Q: วิตามิน รับประทานเวลาไหนดีที่สุด A: การรับประทานวิตามิน ทานเวลาไหนจะเห็นผล และมั่นใจว่า เมื่อเรารับประทานวิตามิน ร่างกายจะได้รับประโยชน์สูงสุด วันนี้ Jobnurse มีข้อมูลมาฝากกันค่ะ  1.วิตามินซี ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการรับประทานวิตามินซี ควรกินหลังอาหารเช้า จะช่วยทำให้ดูดซึม ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดการกัดกระเพาะ จากวิตามินซีได้อีกด้วย 2. คอลลาเจน สามารถกินคู่กับวิตามินซี เพื่อให้เห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้น หรือกินตอนท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มประสิทธภาพ 3.แคลเซียม แคลเซียมคาร์บอเนต ควรกินหลังอาหารทันที ส่วนแคลเซียมซิเตรต ให้เลือกกินตอนท้องว่าง 4.Zinc สามารถทานได้ในตอนที่ท้องว่าง จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดี 5.โพรไบโอติกส์  สามารถทานได้ตอนท้องว่าง หรือหลังอาหาร 2-3 ชั่วโมง (รออาหารย่อย) 6.วิตามินบี ควรทานก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้เต็มที่

Continue Reading

รับประทานวิตามินเวลาไหนเห็นผลดีที่สุด

ในการเลือกรับประทานวิตามิน ช่วงเวลาไหน จะเห็นผลดีที่สุด ทำให้เรามั่นใจว่าวิตามินที่เราทานเข้าไป จะเห็นผลและไม่เกิดผลข้างเคียง หรือเกิดอันตรายต่อร่างกายของเรา  Q: วิตามิน รับประทานเวลาไหนดีที่สุด A: การรับประทานวิตามิน ทานเวลาไหนจะเห็นผล และมั่นใจว่า เมื่อเรารับประทานวิตามิน ร่างกายจะได้รับประโยชน์สูงสุด วันนี้ Jobnurse มีข้อมูลมาฝากกันค่ะ  1.วิตามินซี ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการรับประทานวิตามินซี ควรกินหลังอาหารเช้า จะช่วยทำให้ดูดซึม ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดการกัดกระเพาะ จากวิตามินซีได้อีกด้วย 2. คอลลาเจน สามารถกินคู่กับวิตามินซี เพื่อให้เห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้น หรือกินตอนท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มประสิทธภาพ 3.แคลเซียม แคลเซียมคาร์บอเนต ควรกินหลังอาหารทันที ส่วนแคลเซียมซิเตรต ให้เลือกกินตอนท้องว่าง 4.Zinc สามารถทานได้ในตอนที่ท้องว่าง จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดี 5.โพรไบโอติกส์  สามารถทานได้ตอนท้องว่าง หรือหลังอาหาร 2-3 ชั่วโมง (รออาหารย่อย) 6.วิตามินบี ควรทานก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้เต็มที่

Continue Reading

โรคท้องร่วง สาเหตุเกิดจากอะไร?

โรคท้องร่วง เกิดขึ้นแล้วทรมานมาก ๆ  แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเข่าข่ายเป็นโรคท้องร่วงวิธีสังเกตได้ด้วยตนเอง   ถ้าเรา  ขับถ่ายบ่อยเกิน 3 ครั้ง อุจจาระถ่ายเหลวเป็นน้ำ มีสีเหลือง หรือสีเขียวอ่อน ถ้าอาการรุนแรง อุจจาระจะมีสีขาวขุ่น คล้ายน้ำซาวข้าว อุจจาระมีกลิ่นคาว หรืออาจมีมัน คล้ายไขมัน ปวดท้อง ปวดเกร็ง ปวดบิด มีอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยปริมาณของอุจจาระในการถ่ายแต่ละครั้งอาจมีปริมาณมากจนทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากและมีภาวะขาดสารน้ำได้  ซึ่งอันตรายถึงชีวิตของเรา ถ้าอาการหนักมาก ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ โรคท้องร่วง สาเหตุเกิดจากอะไร? โรคท้องร่วง เกิดจากการที่เราติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย มาจากการที่เรารับประทานอาหารไม่สะอาด เช่น การรับประทานกึ่งสุกกึ่งดิบ ทานอาหารที่มีรสจัด เช่น ยำ ส้มตำ  อาหารของหมักของดอง ฯลฯ  ซึ่งเป็นสาเหตุที่เราท้องเสียได้ง่าย ๆ เรื่องการรับประทานอาหารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่เราต้องใส่ใจในการเลือกรับประทาน การรักษาเบื้องต้น การรักษาอาการเบื้องต้น ดื่มน้ำเกลือแร่ บ่อยๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและรับประทานอาหารอ่อนๆ งดอาหารรสจัด ไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เน้นรับประทานอาหารที่ปรุงสุก

Continue Reading

วิตามิน แร่ธาตุ คืออะไร?

Q :เราจะได้ยินคำว่า วิตามิน แร่ธาตุ  อยู่บ่อย ๆ แต่เราอาจจะยังไม่รู้ความหมาย ประโยชน์ที่ได้รับจากวิตามิน แร่ธาตุ มีอะไรบ้าง ดีต่อร่างกายอย่างไร   A :วิตามิน เป็นหนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ ร่างกายของคนเรา จะใช้วิตามิน เพื่อช่วยทำให้ปฏิกิริยาในร่างกาย ส่งผลให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายเป็นไปตามปกติ    แร่ธาตุ เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างกระบวนการทำงาน ของร่างกาย จะต้องได้รับแร่ธาตุแต่ละชนิดในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการ วิตามิน แบ่งเป็น  2 กลุ่ม คือ 1.วิตามินที่ละลายในไขมัน วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน A D E K จะละลายในไขมันหรือน้ำมันเท่านั้น เพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ หากได้รับมากเกินจะเก็บสะสมไว้ในร่างกาย 2.วิตามินที่ละลายในน้ำ วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามิน B 1 2 3 5 6

Continue Reading