เรื่องของเด็กคนหนึ่ง

เด็กชายมีไข้ต่ำ ๆ เพลีย ๆ อยู่ 3 วัน
แม่จึงพาไปตรวจเลือดที่ รพ.
ผลออกมา เหมือนคำพิพากษาที่คาดไม่ถึง

มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
.
เด็กชายที่ร่าเริง แข็งแรง อ้วนท้วน
ที่ไปไหนมาไหนกับแม่ได้ตลอด นี่เหรอ ?
เป็นมะเร็ง ….
.
หมอส่งตัวให้ไปเข้ารักษาที่ โรงพยาบาลในตัวจังหวัด
การรักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัด
ความหวังยังมี แม่เป็นพยาบาล
แม่พอจะรู้ว่า โรคนี้มีความหวังรักษาได้
ระหว่างที่ลูกนอนรักษาตัว
ก็ได้เห็น คนไข้รายอื่น ๆ ที่เคยรักษาแล้วแข็งแรงดี
วนเวียนเข้ามารับยา มารักษาแล้วหายดี
.
ลูกชาย กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4
เคยบอกแม่ว่า อยากมีมือถือสักเครื่องไว้ใช้
“เพื่อน ๆ เขาก็มีกันหมดแล้วนะครับ”

จากเดิมที่แม่ รีรอ สัญญาไว้ว่า รอถึง ป.6 ก่อนนะ
ถึงจะซื้อให้ เพราะไม่อยากให้ลูกชาย
ใช้เทคโนโลยีจนเกินไป
มาถึงตอนนี้ จึงซื้อมาให้ลูกใช้

เด็กชายหาความรู้ ข้อมูลจากโลก internet
เขารู้ดีว่า เขาเป็นอะไร เขาถามหมอทุกครั้งว่า
จะรักษายังไงต่อไป จะทำอะไรต่อ
เขารู้ว่า เขามีโอกาสที่จะหาย และโอกาสที่จะตาย
.
.
ให้ยาไปช่วงแรกไม่มีปัญหา
แต่ต่อมา เด็กชายก็มีไข้ ระดับเม็ดเลือดขาวไม่ฟื้นตัว
ไม่เพิ่มขึ้นทั้ง ๆ ที่ให้ยากระตุ้นตลอด
ให้ยาปฏิชีวนะ ให้ยาฆ่าเชื้อหลายขนาน
เด็กชายก็ยังมีไข้ตลอด

ปรากฏว่า เชื้อเจ้าปัญหานั้นทำให้เกิดฝี
เกิดโพรงที่ปอด
(ผมไม่ได้เป็นเจ้าของไข้ ไม่ได้เห็นข้อมูล
แต่คาดว่า คงเป็น aspergillosis)
.
จะผ่าก็ไม่ได้ เพราะอยู่ใกล้เส้นเลือด
ความเสี่ยงมากเกินไป ต้องให้ยาต่อไป
หลายสัปดาห์ผ่านไป ดูเหมือนการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น
หมอตัดสินใจส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงเรียนแพทย์

สองเดือน เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
สำหรับเด็กชายคนหนึ่งที่ต้องอยู่ใน รพ. ตลอด
และสำหรับครอบครัวหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับโรคร้าย
พ่อ แม่ ลางานมาเฝ้า
น้องชายลาโรงเรียนมาอยู่เป็นเพื่อน
.
พี่กับน้อง อายุห่างกันเพียง 2 ปี
สนิทกันเหมือนเป็นเพื่อน
พี่อยากให้น้องอยู่ใกล้ ๆ

พี่อยากกลับบ้าน อยากกลับไปกินน้ำปั่นอร่อย ๆ
กลับไปเจอยายที่บ้าน
กลับไปเล่นกับ ดราก้อน หมาที่บ้าน
.
แม้จะมีไข้แต่ เด็กชายก็ยังร่าเริง ยังกินได้เยอะ
ยังเล่นกับน้องได้อย่างกับไม่เจ็บไม่ป่วย

แล้วจู่ ๆ วันหนึ่ง เด็กชายก็ไอเป็นเลือด
จากนั้นก็ช็อกหมดสติ หัวใจหยุดเต้น
หมอช่วยปั๊มหัวใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ
ย้ายไปห้อง ICU
..ความดันค่อย ๆ ต่ำลง ๆ
แล้วเด็กชายก็หลับไปตลอดกาล
.
ผมขึ้นเครื่องบิน ระยะทาง 600 กิโลเมตร
ขับรถไปอีก 120 กิโลเมตร
เพื่อไปร่วมงานของเด็กชาย

สองเดือนที่หนูน้อยไม่ได้กลับบ้าน
วันนี้แม่พากลับมาแล้ว

10 ขวบเองนะ เขากำลังจะโต
เรากำลังจะได้ชื่นชม
เขาเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร ตั้งใจเรียน
เราต้องไปทำงานต่างจังหวัด ก็ตามไป
พ่อเขาก็พาเข้าวัดบ่อย ๆ มดสักตัวแกยังไม่ฆ่าเลย
.
แม่เล่าให้ฟัง แล้วหยิบกระดาษออกมา
ยื่นให้อ่าน เป็นจดหมายที่เด็กชายเขียนให้น้อง

ข้อความท่อนท้าย ๆ เขียนไว้ว่า

“เมื่อวานพี่ได้ยิน น้องว่าพ่อกับแม่
ไม่เอานะ พี่ไม่อยากให้น้องทำอย่างนั้นอีก
.
ถ้าพี่หาย ได้กลับบ้าน เราจะไม่ทะเลาะกันแล้วนะ
เพราะพี่จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว”

หมอจริง ๆ หมอไม่ต้องมาก็ได้นะ
เรารู้ว่ามันไกล มันลำบากที่จะมา

ผมตอบไปว่า “ไม่มาได้ยังไง”

แม้ว่าจะข้ามฟ้ามาตั้งไกล
เพียงเพื่อจะมาร้องไห้เท่านั้นเอง
.
ถึงบรรทัดนี้ บอกตามตรงว่า
เรื่องเล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัวมาก ๆ
จนไม่คิดว่า จะเป็นประโยชน์อะไรกับใครนัก

ความเศร้า มันแบ่งปันกันได้ไหม ?
หากแบ่งได้ ที่ผมรับมาคงเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นเอง

เข้มแข็งไว้นะ เข้มแข็งเอาไว้

เครดิตจาก : FB เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล

Uncategorized